Coach's VIEW

Coach's VIEW is the business column written by coaches in COACH A. It will give you some tips to utilize coaching for organizational development and leadership development through its recent coaching status, recent data related to coaching, and introduction of global publication related to coaching.


เพราะเหตุใด เราจึงโค้ช?

เพราะเหตุใด เราจึงโค้ช?
Send by e-mail Copy the link
Copied Copy failed

ที่ COACH A เราเลือกใช้วิธีการโค้ช (Coaching) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรและการพัฒนาองค์กร

"ผู้นำจะพัฒนาได้จากการตั้งคำถามและการคิด โดยไม่รอให้ใครมาบอกหรือสอน"

"อยากให้มีคนมาตั้งคำถาม จะได้ลองเปลี่ยนมุมมองและมองจากมุมมองที่กว้างขึ้น"

"อยากจะสร้าง Mindset ที่ดีเพื่อเปลี่ยนองค์กรของเรา"

ดูเหมือนการโค้ชจะได้รับความสนใจในการนำมาใช้กับการทำงานทุกๆวันมากขึ้นเพื่อจุดประสงค์เหล่านี้มากขึ้น ณ จุดนี้เองผมจึงอยากจะชวนทุกท่านตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใด Coaching จึงถูกหยิบยกขึ้นมา?

ปีนี้จะครบรอบ 10 ปีที่ผมเริ่มทำงานที่ COACH A ย้อนไปก่อนที่จะมาทำงานที่นี่ ผมคิดว่า "การโค้ชเป็นการสื่อสารประเภทหนึ่ง" ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงที่การโค้ชเป็นวิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและมีเสน่ห์น่าดึงดูด แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ผมหันมาเป็น Coach ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาก็เพราะการโค้ชกระตุ้นให้เราได้ "เรียนรู้"

จุดประสงค์ของการเลือกใช้การโค้ชที่ผมกล่าวถึงหลายข้อในตอนต้น มีคำหรือความหมายที่สื่อถึง "การเปลี่ยนแปลง" เมื่อเกิด "การเปลี่ยนแปลง" ก็ย่อมเกิด "การเรียนรู้" หากการเปลี่ยนแปลงปราศจาก "การเรียนรู้" ก็เหมือนเป็นการฝืนตัวเองหรือทนอยู่กับมัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นจะอยู่ได้ไม่นาน

การโค้ชเป็นวิธีที่ช่วยได้ทั้งในการสร้างและการส่งเสริม "การเรียนรู้" และนี่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าสนุกที่สุด

การเรียนรู้สามขั้นตอนของ Bateson

Gregory Bateson นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมชาวอังกฤษได้สรุปขั้นตอนการเรียนรู้โดยเปรียบเทียบกับทฤษฎีลำดับชั้นเชิงตรรกะในวิทยานิพนธ์ของเขาเรื่อง "หมวดหมู่เชิงตรรกะของการเรียนรู้และการสื่อสาร" เนื้อความต้นฉบับค่อนข้างที่จะเข้าใจยาก ดังนั้นผมจะขออธิบายจากการตีความของผมเอง ดังนี้

การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 1: การเรียนรู้ผ่านการลองผิดลองถูก และเลือกการตอบสนองที่เหมาะสมจากชุดตัวเลือกที่กำหนดไว้ หรือสรุปสั้นๆว่าคือ "เปลี่ยนจาก 'ทำไม่ได้' เป็น 'ทำได้'"

การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 2 : การเรียนรู้บริบทของสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ โดยชุดตัวเลือกจะถูกปรับเปลี่ยนตามประสบการณ์การลองผิดลองถูกที่ผ่านมา กล่าวโดยย่อคือ "สามารถจดจำรูปแบบ (Pattern) และสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม"

การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 1 จะมีคำตอบที่ถูกต้อง ในกระบวนการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราต้องทำที่โรงเรียนหรือในสังคม เราจะค้นหาและได้ข้อสรุปว่า "อะไรคือคำตอบที่ถูกต้อง"

เมื่อคุณเก่งในการหาคำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 2 ก็จะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป โดยแทนที่จะค้นหาคำตอบที่ถูกต้องสำหรับปัญหาทีละข้อ คุณจะเริ่มค้นหารูปแบบ (Pattern) ที่มีร่วมกันในแต่ละปัญหาเพื่อให้พบคำตอบที่ถูกต้องได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น จากนั้น "คำตอบที่ถูกต้อง" จะค่อยๆ สั่งสมอยู่ในตัวคุณ ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องไปค้นหาคำตอบอีกต่อไป เรามักจะอธิบายลักษณะนี้ว่า "ความสามารถ (Capability)"

เมื่อสภาพแวดล้อมมีสภาวะที่เสถียร คงที่ และแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 2 จะเป็นไปได้ดี และจะมีการสั่งสมคำตอบที่ถูกต้องไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมในยุคปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เรามักจะได้ยินว่า "(ในยุคปัจจุบัน) มีคนที่ทำงานเก่งมากมาย แต่ไม่ค่อยมีผู้นำที่สามารถจัดการกับปัญหายากๆ ที่ไม่มีคำตอบได้" นี่คือข้อความที่แสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดของสิ่งที่สามารถทำได้ในการเรียนรู้ขั้นตอนที่ 2

ที่น่าสนใจคือ Bateson ยังกล่าวถึงขั้นตอนต่อไปของการเรียนรู้ไว้ด้วยว่า

การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 3: การตั้งคำถามถึง "สมมติฐาน" ที่ได้รับจากการเรียนรู้ขั้นตอนที่ 2 และเมื่อกรอบความคิดเกิดความเปลี่ยนแปลง ก็จะเชื่อมโยงไปสู่บริบทที่ใหญ่ขึ้น กล่าวโดยย่อคือ "เมื่อมองกว้างขึ้น เราจะเข้าใจและยอมรับความขัดแย้งได้ง่ายขึ้น"

Bateson ยังกล่าวอีกว่า การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 3 เป็นขั้นตอนที่อันตรายสำหรับมนุษย์ ทั้งนี้เพราะว่าเป็นขั้นตอนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับคำตอบที่ถูกต้องที่สั่งสมมาตลอดผ่านการเรียนรู้ขั้นตอนที่ 2 ซึ่งก็คือวิธีคิดและมุมมองของ "ตนเอง" 

แต่หากมองอีกมุม การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 3 อาจกล่าวได้ว่าเป็นประตูสู่ความเป็นผู้นำที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน และเป็นโอกาสสำหรับพวกเราที่จะได้เติบโตยิ่งขึ้นไปและการโค้ชก็มีบทบาทในการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นตอนที่ 3

ตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มา

คุณ A เป็นผู้บริหารที่ดูแลธุรกิจของผู้ผลิตรายหนึ่ง

หลังจากรับตำแหน่งเป็นผู้จัดการแผนกได้ไม่นาน คุณ A รู้สึกถึงปัญหากับการที่สมาชิกในแผนกเอาแต่รอคำสั่งโดยไม่คิดด้วยตัวเอง ตัวคุณ A ประสบความสำเร็จด้วยการคิดและทำด้วยตัวเองมาตลอด และเขาก็มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่อยากให้สมาชิกในแผนกทำเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงแถลงวิสัยทัศน์และกำหนดนโยบายอย่างชัดเจน และพยายามอธิบายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และนโยบายอย่างละเอียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สถานการณ์ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ในสายตาของคุณ A เขามองว่า คนในทีมไม่มีใจอยากทำงาน อีกทั้งยังขาดความสามารถ

ในสายตาของผมที่เป็น Coach ผมรู้สึกว่า คุณ A มองสิ่งต่าง ๆ ด้วยมุมมองที่เขาได้จากการเรียนรู้ นอกจากนี้ เขายังปฏิเสธสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากมุมมองเหล่านั้นและพยายามเปลี่ยนแปลงมัน จากนั้น ผมได้ชวนคุณ A มองด้วยวิธีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เขาได้มองภาพรวมที่รวมถึงมองกลับมาที่ตัวเขาด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อคุณ A มองสิ่งต่างๆ ในบริบทที่กว้างขึ้น เขาสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เขาเรียนรู้ในขั้นตอนที่สองกับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าเขาเข้าด้วยกันได้ ผมถามเขาด้วยคำถาม เช่น 

"ถ้าสามารถออกแบบสภาพแวดล้อมที่คุณจะแสดงศักยภาพได้เต็มที่ คุณเห็นใครอยู่ในนั้นบ้าง และพวกเขากำลังทำอะไรอยู่?"

"ความสามารถหรือความเก่งที่คุณมองอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลจริง ๆ หรือเปล่า? หรือว่ามันอาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้?"

หรือการ Feedback คุณ A ว่า

"วิธีพูดของคุณ A ทำให้ผมรู้สึกว่า คุณกำลังตัดสินคนอื่นโดยดูจากว่าคน ๆ นั้นเหนือกว่าหรือด้อยกว่าคุณ''

เมื่อพูดถึง "การโค้ช" คุณอาจคิดว่าจะได้รับคำถามหรือ Feedback ที่ทำให้เกิดการตระหนักรู้ แต่ในความจริง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และบ่อยครั้งการโค้ชในแต่ละครั้งมักจบลงด้วยความคิดและความรู้สึกที่ยังค้างคาใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดเซสชั่นการโค้ชซึ่งดำเนินมาเป็นเวลาหลายเดือน คุณ A ก็ได้กล่าวกับผมว่า

"สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้อาจจะเกิดจากตัวผมเองก็ได้"

ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา คุณ A ก็เปลี่ยนแปลงไป

เมื่อผมกับคุณ A ย้อนกลับไปมองการโค้ชที่ผ่านมา เขาก็พูดกับผมว่า

"คำถามและ Feedback ที่ผมได้รับในการโค้ชแต่ละครั้ง ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ในสถานการณ์นั้นมันทำให้ผมเริ่มมองเรื่องต่าง ๆ อย่างเป็นกลางมากขึ้น บางครั้งการที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ทันที อาจช่วยให้ผมเห็นมุมมองใหม่"

นี่เป็นช่วงเวลาที่ผมตระหนักว่า การโค้ชอย่างต่อเนื่องจะนำไปสู่การเรียนรู้ขั้นตอนที่ 3

* * *

ดังที่ Bateson กล่าวไว้ว่า อาจเป็นเรื่องน่ากลัวที่เราจะละทิ้งวิธีคิด วิธีการมองสิ่งต่างๆ และความเชื่อที่มีมาตลอด ดังนั้น เราจึงพยายามยึดติดกับสิ่งที่เราเป็นโดยไม่รู้ตัว หากคุณพยายามฝืนบังคับให้พวกเขาปล่อยมันไป ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการต่อต้าน

การมี Coach ก็เปรียบเหมือนการเพิ่มโอกาสให้ตนเองได้หยุดคิด แม้ว่าในการโค้ชแต่ละครั้งอยากจะไม่เกิดผลในทันที แต่ผมเชื่อว่าการได้หยุดคิดบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราค่อยๆ เห็นและก้าวออกจากกรอบที่เราพยายามยึดถือมันเอาไว้ เมื่อคุณสามารถปรับเปลี่ยนกรอบความคิดของคุณได้ ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ก็จะรอคุณอยู่

เมื่อมองในมุมนี้ การโค้ชก็คือการสร้างเสริมให้ผู้รับการโค้ชได้เร่งการเรียนรู้ในขั้นตอนที่ 3 และสำหรับผมแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่สนุกมากจนทำให้ผมยังคงตัดสินใจเป็น Coach จนถึงทุกวันนี้


[Reference]
*1 Gregory Bateson (ผู้เขียน), “Steps to an Ecology of Mind”, 1972.
*2 Akiko Ando (ผู้เขียน), “The Power of Editing Questions”, Discover 21, 2024.

*Regardless of profit, non-profit or intranet, secondary use such as copying, diversion, selling etc. is prohibited without permission.

Language: Japanese

Please feel free to contact us regarding organizational coaching, organizational research or global resources development

Read More Articles

Send by e-mail Copy the link
Copied Copy failed