Coach's VIEW is the business column written by coaches in COACH A. It will give you some tips to utilize coaching for organizational development and leadership development through its recent coaching status, recent data related to coaching, and introduction of global publication related to coaching.
อย่าปล่อยให้ลูกน้องที่กำลังพยายามต้องรู้สึกโดดเดี่ยว
July 23, 2024
"Accountability" ในความหมายของการโค้ช หมายถึง "ความตระหนักรู้และสำนึกรับผิดชอบต่องานต่างๆจากตนเอง" และ "ความตระหนักรู้และสำนึกรับผิดชอบรับผิดชอบต่อความคิดและการกระทำของตนเอง" ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ามีความคล้ายกับคำว่า "Sense of ownership"
พวกเราในฐานะผู้นำ จะรับมือกับ Accountability ในองค์กรของเราได้อย่างไร?
"ถ้าไม่พยายาม"
ย้อนกลับไปสมัยที่ฉันยังเป็นผู้บริหารที่รับผิดชอบธุรกิจใหม่ ฉันเพียงต้องการให้ธุรกิจดำเนินไปตามแผนและเติบโตอย่างรวดเร็ว ฉันจึงทำงานอย่างเต็มที่ตั้งแต่การทำความเข้าใจสภาพปัจจุบัน การระบุปัญหา และการนำมาตรการปรับปรุงแก้ไขไปใช้ที่หน้างาน นอกเหนือจากการเพิ่มยอดขายและผลกำไรแล้ว อีกงานที่ฉันทำและให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆคือการอบรมพัฒนาบุคคลากรและผู้บริหาร
วันหนึ่ง ฉันได้คุยกับผู้จัดการสาขาแห่งหนึ่งที่ยอดขายตกลงกะทันหัน และมีพนักงานลาออกเพิ่มขึ้น
ผู้จัดการสาขาท่านนี้เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับยอดขาย และคิดว่าการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ในสายตาของฉันนั้นเธอดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมและมีความตั้งใจ แต่ในการประเมินแบบ 360° พนักงานจำนวนมากกลับร้องเรียนเกี่ยวกับเธอ เมื่อฉันไปสอบถามพนักงานก็พบว่า ผู้จัดการท่านนี้มีอาการหงุดหงิดใส่พนักงานที่ทำงานช้า และบางครั้งก็ทำตัวเย็นชา ซึ่งดูหมือนว่า สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พนักงานบางคนลาออก
เมื่อฉันให้ Feedback เกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอกล่าวว่า
"ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนพูดเกี่ยวกับฉันแบบนั้น ทั้งๆที่ฉันตั้งใจสอนคนที่ทำงานช้าอย่างละเอียด และตั้งใจทำงานหนักในทุกๆวัน แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับของทีม ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะทำตามคำแนะนำของคุณ ช่วยบอกฉันทีว่าต้องทำอย่างไร"
ตอนที่ฉันพูดเกี่ยวกับความคาดหวังที่มีต่อเธอ ฉันก็บอกเธอว่า "อยากให้คุณลองปรับเปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อทีมอีกครั้ง'' เธอยิ้มและพยักหน้า และยิ่งพยายามทำงานหนักกว่าที่เคย
อย่างไรก็ตาม คนอื่นก็ไม่สามารถไล่ตามความพยายามของเธอได้ทัน
"เป็นความรับผิดชอบของฉันเองที่ performance แย่ลง และฉันก็คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนลาออก แต่เราจะต้องแก้ไขสถานการณ์ให้กลับมาดีขึ้นให้เร็วที่สุด ฉันจะเป็นคนออกคำสั่งทั้งหมดเอง และให้ทุกคนทำตามที่ฉันบอกก็พอ"
เธอยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้น และ performance ของสาขานั้นก็ยิ่งแย่ลงไปอีก
พยายามอย่างหนักอยู่คนเดียว
"ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของฉัน"
เมื่อฉันเห็นเธอที่พูดแบบนั้นและทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่า "ตอนนี้เธอกำลังโดดเดี่ยว'' จากนั้น ฉันก็รู้สึกราวกับว่าฉันกำลังมองดูตัวเองอยู่ และนั่นทำให้ฉันรู้สึกปวดใจ
ตัวฉันเองเป็นคนที่ไม่ถนัดในการพึ่งพาคนอื่น อันที่จริง ฉันเคยมองว่า การพึ่งพาใครสักคนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เท่เลยด้วยซ้ำ ฉันเคยมีความคิดว่า "ความยากลำบากคือสิ่งที่จะต้องเอาชนะให้ได้ด้วยตัวเอง การคิดเแบบนี้แสดงถึงการมี Sense of ownership'' และฉันก็เคยภูมิใจที่เอาชนะความยากลำบากมาได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันจึงคิดว่าเมื่อลูกน้องมองสไตล์การทำงานของฉัน พวกเขาคงรู้สึกเหมือนกำลังถูกบอกว่า "ทุกคนต้องพยายามและรับผิดชอบด้วยตนเอง"
หลังจากนั้น ฉันจึงนัดเวลาเพื่อพูดคุยกับผู้จัดการท่านนี้อีกครั้งหนึ่ง ฉันบอกกับเขาว่า
"คุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากกว่าใครๆ และคุณก็เป็นคนที่พึ่งพาได้เป็นอย่างมาก แต่คุณกำลังพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียวอยู่หรือเปล่า ถึงคนอื่นๆอาจจะไม่เก่งเท่าคุณ แต่ก็มีคนหลายคนที่มีจุดแข็งที่คุณไม่มี คุณไม่ลองร่วมมือกับคนรอบข้างให้มากขึ้นดูล่ะ? ฉันยังคาดหวังในตัวคุณเหมือนเดิม แล้วเรามาสร้างสาขาที่ยอดเยี่ยมไปด้วยกัน"
ในขณะที่ฉันพูดกับเธอ เสียงของฉันก็สั่น เพราะฉันรู้สึกราวกับว่าฉันกำลังพูดกับตัวเอง ฉันไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้เธอได้อีกบ้างนอกจากการบอกเธอเช่นนั้น
การสร้าง Accountability
บางครั้งเราทุกข์ทรมานจากการตำหนิหรือโทษตัวเอง โดยคิดว่า "ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของตนเอง"
เมื่อพูดถึงคำว่า "Sense of ownership" เราอาจมี Image ว่าหมายถึง "การต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่ง" แต่คำว่า "Accountability" ที่พูดถึงในตอนต้นของบทความ มีความหมายแตกต่างจาก "การตำหนิตัวเอง" แทนที่จะคิดว่าทุกสิ่งเป็น "ความรับผิดชอบของตนคนเดียว" การคิดแบบ Accountability จะเป็นการมองหาความเป็นไปได้ทั้งหมด โดยให้เรากลับมาถามตัวเองว่า "ฉันทำอะไรได้บ้าง" และ "มีอะไรที่สามารถทำได้อีกบ้าง'' เพื่อทำให้สิ่งที่เรารับผิดชอบอยู่เกิดขึ้นได้จริง
Coaching manual ของ COACH A มีคำอธิบายเกี่ยวกับ Accountability ดังต่อไปนี้:
"คนที่มี Accountability คือคนที่เข้าถึง Accountability ของคนรอบข้างด้วยการถามพวกเขาว่า 'คุณทำอะไรได้บ้าง' และ 'มีอะไรที่คุณสามารถทำได้อีกบ้าง'"
ตอนที่ฉันพบกับแนวคิดนี้ กรอบแนวคิดต่อของคำว่า "Sense of ownership" ของฉันก็กว้างขึ้น ฉันคิดว่า Sense of ownership ไม่ใช่การเอาชนะความยากลำบากด้วยตัวเองเพียงคนเดียว แต่เป็นการให้ผู้อื่นเข้ามามีส่วนร่วมและทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุสิ่งที่ตนรับผิดชอบ ฉันรู้สึกว่า ที่ผ่านมาฉันมัวแต่มองเข้าไปแต่ด้านใน แต่คำว่า Accountability ทำให้ฉันได้ขยายมุมมองออกไปด้านนอก
ตอนนี้ ถ้าฉันทำงานกับเธออีกครั้ง ฉันคงจะบอกกับเธอว่า
"มีอะไรที่ฉันสามารถช่วยได้หรือไม่"
"ฉันอยากมีส่วนช่วยให้คุณได้นำศักยภาพตัวเองมาใช้ได้มากขึ้นอย่างที่คุณตั้งใจไว้"
ถ้าตอนนั้นฉันสามารถบอกเธอแบบนั้นได้ เธออาจมีทางเลือกที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างและทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย บางที สิ่งที่ทำให้เธอโดดเดี่ยว อาจเป็นวิธีของฉันในการสร้างความสัมพันธ์กับเธอก็เป็นได้
จากประสบการณ์นี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า Accountability ของผู้นำมีผลกระทบอย่างมากต่อการสร้าง "ทีมที่มีความรับผิดชอบต่องานและธุรกิจในเชิงรุก และสามารถคิดและเริ่มทำจากตัวเอง"
อย่าให้ลูกน้องที่กำลังพยายามต้องรู้สึกโดดเดี่ยวหรือทนทุกข์ทรมานเพราะการตำหนิหรือโทษตัวเอง การสร้าง Accountability ร่วมกับทีม ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายผู้นำที่ผู้นำต้องเผชิญเพื่อสร้างอนาคตขององค์กร
【References】
คู่มือ Coach A Academia “F08 Accountability” หน้า 11, Coach A, 2015
*Regardless of profit, non-profit or intranet, secondary use such as copying, diversion, selling etc. is prohibited without permission.
Language: Japanese