Easterlies

"Easterlies" refers to winds that blow from east to west. In this Easterlies series of articles, we handpick unique perspectives from literature on management and leadership from both the West and the East and curate them into easily digestible, three-minute articles that bring you inspiration on these important topics.


"การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร" หมายความว่าอย่างไร?

Send by e-mail Copy the link
Copied Copy failed

นักวิชาการด้านการบริหารธุรกิจ Peter Drucker เคยกล่าวไว้ว่า "วัฒนธรรมกินกลยุทธ์เป็นอาหารเช้า (Culture eats strategy for breakfast)"

หรือแปลความหมายได้ว่า "กลยุทธ์ก็ยังแพ้วัฒนธรรมองค์กร"

ไม่ว่าจะวางกลยุทธ์ได้ดีเยี่ยมแค่ไหนก็ไม่ได้หมายความว่าผลลัพธ์จะดีเสมอไป ทั้งนี้ ก็เพราะการที่คนเราจะแสดงศักยภาพนั้นขึ้นอยู่กับความคิด พฤติกรรม ธรรมเนียม และวัฒนธรรมที่เป็นกรอบความคิดของเราในการนำกลยุทธ์นั้นไปปฏิบัติด้วย

ผู้นำที่เผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวอาจเล็งเห็นถึงความสำคัญและความเร่งด่วนในการ "พัฒนาหรือปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร"

อย่างไรก็ตาม คำว่า "วัฒนธรรมองค์กร" เป็นคำที่ค่อนข้างเป็นนามธรรม และอาจเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นภาพได้ว่าต้องปรับเปลี่ยนอะไรและอย่างไร

ในเดือนนี้ เราจะมาคลายข้อสงสัยด้วยการอธิบายอย่างเป็นรูปธรรมว่า การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรคืออะไร

ผู้นำที่ "กำลังดำเนินการเพื่อปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กรของตน" มีไม่ถึง 20%

ที่ผ่านมา งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า วัฒนธรรมองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินธุรกิจ

ในวิทยานิพนธ์หนึ่งที่วิจัยเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรและผลการดำเนินธุรกิจ ได้สรุปผลงานวิจัยไว้ว่า "การมีวัฒนธรรมเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัท" (*1)

นอกจากนี้ จากการศึกษาวิจัยโดยมหาวิทยาลัย Duke ในสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้นำมากกว่า 90% ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของงานวิจัยตอบว่า "วัฒนธรรม (ขององค์กรที่เขาสังกัดอยู่) ยังมีจุดที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อีก"

อย่างไรก็ตาม มีผู้นำไม่ถึง 20% เท่านั้นที่ตอบว่าพวกเขา "นำเรื่องนี้ไปปฏิบัติจริง" (*2)

James L. Heskett ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์จาก Harvard Business School ชี้ให้เห็นว่าเรื่องนี้ "เหมือนกับเรื่องสภาวะโลกร้อนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)" (*3)

"เราทุกคนเห็นตรงกันว่า เราต้องแก้ไขและจัดการกับปัญหาโลกร้อนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) แต่ด้วยความเร่งรีบในการแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้ปัญหาสภาวะโลกร้อนถูกให้ความสำคัญน้อยลง"

สำหรับบางคนเองก็คิดว่า "การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม" เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลา"

มันเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ?

"วัฒนธรรมองค์กร" คืออะไร?

จริงๆ แล้ว "วัฒนธรรมองค์กร" เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากค่านิยม และบรรทัดฐานที่กลุ่มคนตกลงมีร่วมกัน

หรืออาจกล่าวได้ว่า เป็น "สิ่งที่เป็นเรื่องปกติธรรมดา" ภายในองค์กร

บทความหนึ่งใน Harvard Business Review อธิบายเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรว่าเป็น "การกำหนดของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งว่า สิ่งใดที่ได้รับการส่งเสริมให้ทำได้ และสิ่งใดที่ไม่ได้รับการส่งเสริมให้ทำ รวมถึงสิ่งที่เป็นที่ยอมรับได้และไม่ได้ ภายในกลุ่ม'' (*4)

ตัวอย่างเช่น ในองค์กรที่มีบรรทัดฐานว่า "สิ่งที่หัวหน้าทีมพูดเป็นสิ่งที่ทีมต้องเชื่อฟัง"" ในองค์กรที่เป็นเช่นนี้ หัวหน้าทีมในองค์กรนั้นก็จะมองว่า "ลูกน้องต้องไม่ตั้งคำถาม และควรทำตามสิ่งที่บอกอย่างเคร่งครัด" และการสื่อสารแบบเดียวกันนี้ก็จะถูกส่งต่อไปยังคนอื่นๆ รอบตัวเขาเช่นกัน

เมื่อสิ่งนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้บรรทัดฐานนี้ขององค์กรฝังรากลึกลงไปยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เราพูดคุยกันในที่ทำงานมีอิทธิพลกับค่านิยมและความคิดของคนอื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นวิถีในการทำงาน

และเมื่อมีคนทำสิ่งที่คล้ายกันมากขึ้นๆ สิ่งนั้นก็ก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร

พูดได้ว่า วัฒนธรรมที่มีอยู่ในแต่ละองค์กรนั้นเกิดขึ้น ส่งเสริม และดำเนินไปเป็นทวีคูณผ่านการสื่อสารในที่ทำงานในแต่ละวัน

ปรับเปลี่ยนสิ่งที่เคยคิดว่า "ปกติและธรรมดา"

"ฉันต้องการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร"
"ฉันต้องการให้มีคน ○○ มากขึ้นในที่ทำงาน"

ถึงแม้ว่าการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง เช่น การเปลี่ยนผังองค์กร การปรับระบบการประเมินผลงาน หรือวิธีการการทำงาน จะเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้

แต่อย่างไรก็ตาม "เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร" นั้นก็คือ "การเปลี่ยนการสื่อสารที่เราทำในที่ทำงานในแต่ละวัน"

  • ปัจจุบัน คุณและทีมของคุณทำงานบนความคิดและค่านิยมอะไรบ้าง?
  • ความคิดและค่านิยมที่คนให้ความสำคัญส่งผลต่อผลลัพธ์การดำเนินธุรกิจขององค์กรอย่างไร?

ถ้าเราต่างคิดถึงคำถามเหล่านี้และสงสัยในเรื่องที่เรากำลังทำจนดูเหมือนเป็น "ปกติและธรรมดา" มากขึ้น ก็อาจจะทำให้เราได้หยุดทบทวนว่าเราจะพูดอะไร ถามอะไร และ Feedback อะไรดี จนการแสดงออกและการสื่อสารของเราก็ปรับเปลี่ยนไปแต่ละวันได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เราสามารถเริ่มต้นปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรของเราได้ตั้งแต่วันนี้

  • อะไรเป็น "สิ่งปกติธรรมดา" ในที่ทำงานที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้?
  • ความปกติธรรมดานี้ เกิดขึ้นจาก "ความคิดและความค่านิยม" อะไรที่มีร่วมกัน?
  • "ความปกติธรรมดา" นี้ส่งผลอย่างไรกับองค์กรของคุณ? และหากจะต้องคิดใหม่ คุณคิดว่า "ความปกติธรรมดา" ในเรื่องอะไรจึงจะช่วยให้องค์กรของคุณพัฒนาและเติบโตต่อไปได้อย่างดี?
  • เพื่อสร้าง "ความปกติธรรมดา" ในเรื่องใหม่นี้ คุณคิดว่าคุณสามารถจะเปลี่ยนแปลงการสื่อสารของคุณอย่างไรได้บ้าง?

【References】
*1 Joseph, O.O., & Kibera, F. (2019) Organizational Culture and Performance: Evidence From Microfinance Institutions in Kenya. SAGE Open, 9(1).
*2,*3 Raju Narisetti chats with James Heskett, "Author Talks", Mckinsey Insights, January 19, 2022,
*4 Boris Groysberg, Jeremiah Lee, Jesse Price, and J. Yo-Jud Cheng, "The Leader’s Guide to Corporate Culture"(2018, January 1) .Harvard Business Review.

*Regardless of profit, non-profit or intranet, secondary use such as copying, diversion, selling etc. is prohibited without permission.

Language: Japanese

Please feel free to contact us regarding organizational coaching, organizational research or global resources development

Read More Articles

Send by e-mail Copy the link
Copied Copy failed